เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมขับเคลื่อนสังคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยอย่างยั่งยืน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มุ่งขับเคลื่อนความสำเร็จทางธุรกิจควบคู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เดินหน้าพัฒนาสังคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยอย่างยั่งยืน

 

24 มิถุนายน 2565 : เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นสังคมยานยนต์ไฟฟ้า ฉายภาพความเป็นบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) ที่มีความพร้อมในการสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้าในไทยให้สมบูรณ์และ ยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยสู่การเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าแห่งเอเชีย ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านพลังงานและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายในงานสัมมนา EV Forum 2022: Move Forward to New Opportunity และงานสัมมนา Automotive Summit 2022 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย

ภายในงานสัมมนา EV Forum 2022 : Move Forward to New Opportunity ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ร่วมกับฐานเศรษฐกิจ ในเครือเนชัน กรุ๊ป นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ในฐานะตัวแทนองค์กรเอกชนชั้นนำที่เป็นกำลังขับเคลื่อนหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ "เปิดแผนธุรกิจรุกตลาด EV" โดยนายณรงค์ได้เผยถึงความนิยมของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดโลก ประเทศจีน รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งหลังจากที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวในประเทศไทยเพียง 1 ปี ได้ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสู่ท้องถนนไทยแล้วทั้งสิ้นกว่า 8,277 คัน ในจำนวนนั้นเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง ORA Good Cat เกือบ 2,000 คัน และยังมีที่รอส่งมอบอีกมากกว่า 3,000 คัน สะท้อนถึงโอกาสของการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งมาพร้อมกับความเร่งด่วนในการเติมเต็มระบบนิเวศของอุตสาหกรรมให้สมบูรณ์มากขึ้นอีกด้วย โดยในปี 2565 เกรท วอลล์ มอเตอร์ คาดว่ายอดขายของรถยนต์รวมทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 820,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ โดยในจำนวนนี้ สัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า (ไฮบริด ปลั๊กอิน-ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100%) จะอยู่ที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์หรือ 82,000 คัน และในจำนวนนี้ จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% สูงถึง 12,300 คัน หรือคิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี (มกราคม-มีนาคม 2565) ประเทศไทยมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้ารวมทั้งสิ้นกว่า 21,167 คัน โดยมีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า 100% จำนวน 1,270 คัน หรือประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์

ท่ามกลางโอกาสและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยในปัจจุบัน นายณรงค์ ได้เผยถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนนโยบายประเทศไทย 4.0 และผลักดันประเทศไทยไปสู่ศูนย์กลางการผลิตด้านยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน โดยผ่านทางการจัดตั้ง ‘Smart Factory’ ในจังหวัดระยอง เพื่อผลิตรถยนต์แบรนด์ HAVAL สำหรับจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกสู่ตลาดอาเซียน พร้อมเร่งเครื่องจัดตั้งโรงงานประกอบแบตเตอรี่ภายในปี 2566 และวางแผนเดินเครื่องผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยภายในปี 2567  

“ภายใต้กลยุทธ์เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ดำเนินธุรกิจด้วยการรับฟังการรับฟังเสียงของผู้บริโภค (Consumer Voice) ซึ่งผลตอบรับต่างๆ ที่เราได้รับมาตลอดหนึ่งปี ได้นำมาซึ่งภารกิจหลักของเราในปี 2565 ทั้ง 4 ด้าน ที่จะช่วยสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเติมเต็มระบบนิเวศของไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ได้แก่ 1) ด้านผลิตภัณฑ์ กับภารกิจในการนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างน้อย 9 รุ่นมาโลดแล่นบนท้องถนนไทยภายใน 3 ปี หรือ Mission 9 in 3 2) ด้านช่องทางจำหน่าย พร้อมเป้าหมายในการขยาย GWM Store เพิ่มเป็น 80 สาขาทั่วประเทศ 3) ด้านสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า ซึ่งเรากำลังเดินหน้าขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั้ง 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น G-Charge Supercharging Station สถานีชาร์จที่ Partner Store และ Destination Charging Station ที่จับมือกับพันธมิตรโรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั้งสิ้น 55 แห่งภายในปีนี้ รวมถึงการร่วมมือกับ 3 หน่วยงานการไฟฟ้าของไทยในการจัดตั้งสถานีชาร์จและพัฒนาแอปพลิเคชันให้ครอบคลุมและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และ 4) ด้านประสบการณ์ลูกค้า โดยผ่านทางการดำเนินงานในรูปแบบ Online-to-Offline การจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับลูกค้าตลอดทั้งปี รวมไปถึงการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าผ่าน GWM Application เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น” นายณรงค์ กล่าว

ขณะเดียวกัน ภายในงานสัมมนา Automotive Summit 2022 ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันยานยนต์แห่งประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “ความเป็นกลางทางคาร์บอน : จุดเปลี่ยนของยานยนต์แห่งอนาคต” นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ รองประธาน ฝ่ายกิจการองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ได้รับเชิญให้แสดงวิสัยทัศน์ด้านการบริหารจัดการคาร์บอนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยนายครรชิต ได้เผยเป้าหมายของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการเดินหน้าสู่การเป็นบริษัทที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2588 โดยผ่านทางการดำเนินกลยุทธ์ 3 ด้าน ได้แก่

1)การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานเดิมที่มีอยู่ รวมไปถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบส่งกำลังแบบดั้งเดิมและการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริด โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้สั่งสมประสบการณ์กว่า 30 ปี เพื่อพัฒนาระบบส่งกำลังอิสระ 9DCT ให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 7% ต่อการขับขี่ 100 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นพลังงานทั่วไป นอกจากนั้นยังได้พัฒนาระบบส่งกำลัง 9DHCT สำหรับ รถยนต์รุ่นปลั๊กอิน-ไฮบริด ซึ่งจะช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ถึง 70% ต่อการขับขี่ 100 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปรุ่นทั่วไป

2)การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและระบบอัจฉริยะ (Green + Intelligent) กว่า 10 ปีที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ค้นคว้า วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและไฮโดรเจน รวมไปถึงเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่แบบอัจฉริยะ เพื่อใช้พลังงานสะอาดในการขับเคลื่อนและสร้างความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับผู้คนไปในเวลาเดียวกัน โดยเรามีการนำเสนอเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และรถเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (FCV) ระดับคุณภาพที่สามารถเจาะตลาดจีนและตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว

3)การจัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2566 เกรท วอลล์ มอเตอร์จะมีการบริหารจัดการทุกภาคส่วนภายในโรงงานให้สามารถใช้ประโยชน์จากการหมุนเวียนพลังงานภายในห่วงโซ่การผลิตในทุกกระบวนการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่มีการปล่อยคาร์บอนออกสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก

 

นายครรชิต กล่าวว่า “การบรรลุเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนเป็นแผนการระยะยาวที่ต้องอาศัยความพยายามร่วมกันทั้งจากภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจ ในขณะที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าสำรวจเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศและความเป็นกลางทางคาร์บอนของอุตสาหกรรม”

 

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ด้วยการรับฟังความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อนำมาพัฒนาระบบนิเวศของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง อันจะนำไปสู่การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าไทยอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

 

อนึ่ง เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) หรือ GWM เป็นบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2546 และตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2554 มีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นมากกว่า 80 บริษัทและมีพนักงานกว่า 70,000 คน ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทำยอดขายได้กว่าหนึ่งล้านคันต่อปี เป็นเวลาหกปีติดต่อกัน ซึ่งนอกจากในประเทศจีน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังส่งมอบรถยนต์คุณภาพไปให้กว่า 60 ประเทศและภูมิภาค และมีเครือข่ายในต่างประเทศกว่า 700 แห่ง อีกด้วย 

Visitors: 5,034,161