สรยท. เผยบรรยากาศทดสอบรอบสุดท้ายรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566

การลงคะแนนรอบสุดท้ายรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566 หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 ที่ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ATTRIC ของสถาบันยานยนต์ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม สุดเข้มข้น โดยเฉพาะกลุ่มรถพลังงานไฟฟ้า หรือ EV มีความแตกต่างทั้งกำลัง ขนาดแบตเตอรี่ รวมถึงฟังก์ชั่นการทำงาน และราคามีความแตกต่างกันอย่างมาก

 

แต่การต่อสู่เพื่อชิงความเป็นหนึ่งรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566 ที่จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ครั้งนี้วัดกันหลายด้านรถยนต์ทุกแบรนด์ทุกรุ่นที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเข้ามาชิงดำล้วนที่มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลอันทรงเกียรตินี้ชนิดคะแนนคู่คี่สูสี...

ในรอบสุดท้ายนี้ เป็นการทดสอบภาคสนามของรถยนต์ และรถ EV ที่เข้ารอบทั้งหมด 12 รุ่น ประกอบด้วย BMW X, GWM TANK 300, HONDA CR-V, MERCEDES-BENZ GLC 350 e, MITSUBISHI TRITON และ TOYOTA INNOVA ZENIX ของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน

ส่วน BYD Dolphin, BYD Seal, MG 4 Electric, MG Maxus 9, MERCEDES-AMG EQE 53 4MATIC+ และ TOYOTA bZ4X ในกลุ่มรถพลังงานไฟฟ้า เข้าชิงรางวัล THAILAND EV OF THE YEAR 2023

ทั้งหมดถูกนำมาทดสอบสมรรถนะอีกครั้ง โดยกรรมการที่เป็นสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือสรยท. กว่า 50 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้มีประสบการณ์สูงในการรายงานข่าว และทดสอบรถยนต์ของเมืองไทย

 

นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thai Automotive Journalists Association : TAJA ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคัดเลือกและตัดสิน THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 เปิดเผยขั้นตอนการตัดสินและมอบรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566 ว่า การเลือกให้รถยนต์รุ่นใดรุ่นหนึ่งให้ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566 หรือ THAILAND CAR OF THE YEAR โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือสรยท. ในทุกปี มีรถยนต์เข้าสู่รอบสุดท้ายของการตัดสิน มีความแตกต่างทั้งสมรรถนะ ราคา ระบบและอุปกรณ์ต่างๆ  แต่คณะกรรมการ ต้องมีเกณฑ์ให้คะแนนที่เหมาะสมกับรถยนต์แต่ละเซกเมนต์

อย่างเช่นรถยนต์ยุโรป อยู่ในเซกเมนต์ระดับหรู และต้องแข่งกับรถยนต์จากเอเชีย ในเซกเมนต์ตลาดมวลชน (Mass Market) การให้คะแนนจึงไม่ได้จำกัดให้รถมีราคาต่ำจะได้มากกว่า หรือรถที่มีสมรรถนะ กำลังแรงม้า มากกว่าต้องการได้คะแนนสูงเสมอไป

 

เพราะกรรมการผู้ลงคะแนน ที่ได้คัดเลือกมา ต้องมองในมุมกว้าง ตั้งแต่ทิศทางการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ คุณสมบัติอันโดดเด่นของรถแต่ละรุ่น และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความปลอดภัย มีความเหมาะสมกับพฤกติกรรมการใช้รถยนต์ของคนไทยมากน้อยเพียงใด

 

สำหรับวิธีให้คะแนน การคัดเลือกรถยนต์และรถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยม กรรมการแต่ละท่านจะมีคะแนนคนละ 25 คะแนน ในการทดสอบภาคสนามรอบสุดท้าย กรรมการทุกคนได้สัมผัสกับรถยนต์เข้ารอบ ทั้งภายนอก ภายใน การขับขี่ เพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะที่เหมาะสมกับรถยนต์ในแต่ละเซกเมนต์ ก่อนให้คะแนน โดยให้ 10 คะแนนสำหรับรถยนต์ที่คิดว่าควรจะเป็นรถยอดเยี่ยม และ 15 คะแนนจะแบ่งกระจายให้กับรถที่เข้ารอบรุ่นอื่นๆ ไม่น้อยกว่า 5 รุ่น

 

ผลรวมคะแนนรถยนต์ยอดเยี่ยมจะถูกนำมานับ รถยนต์ที่ได้คะแนนสูงสุดจะได้เป็นรถยอดเยี่ยมประจำปีของประเทศไทยหรือ THAILAND CAR OF THE YEAR รูปแบบและหลักเกณฑ์ที่ว่านี้ คือหลักการระดับสากล ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับการตัดสิน Japan Car of The Year ของประเทศญี่ปุ่น และ EURO Car of The Year ของยุโรป

นายวชิระ เรืองมาลัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) (Thailand Automotive Journalists Association : TAJA) กล่าวว่า THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 รอบสุดท้าย สรยท. ได้รับความร่วมมือจากสถาบันยานยนต์สังกัด กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ใช้ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ATTRIC เป็นสถานที่ทดสอบภาคสนาม ซึ่งเป็นสถานที่ให้กรรมการผู้ลงคะแนน ได้สัมผัสกับสมรรถนะของรถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละเซกเมนต์ อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจาก ATTRIC มีสถานีต่างๆ ให้ทดสอบสรรถนะที่หลากหลาย นั่นเอง

 

ดร.เกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวต้อนรับและแนะนำศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ หรือ ATTRIC ว่า ศูนย์ทดสอบยานยนต์แห่งนี้ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 11 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน เริ่มเปิดให้บริการ สำหรับการทดสอบรถยนต์และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องต่างๆ ของตัวรถ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการให้มาตรฐานทางอุตสาหกรรม เมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา และให้บริการสำหรับทดสอบรถ และอุปกรณ์สำหรับผู้ประกอบการยานยนต์มาอย่างต่อเนื่อง

ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ตั้งอยู่ในอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ทั้งโครงการมากกว่า 1,200 ไร่ และมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 5 พันล้านบาท มีพื้นที่สำหรับทดสอบรถยนต์ก่อสร้างแล้วเสร็จไปมากว่า 50% สนามทดสอบส่วนใหญ่ดำเนินการเรียบร้อยไปหลายส่วน เหลือสนามทดสอบความเร็วสูง รูปไข่ ซึ่งรองรับการใช้ความเร็วได้มากว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสถานที่สำหรับทดสอบระบบรถยนต์ เช่น ศูนย์ทดสอบการชน หรือ Crash Test อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นต้น

ในการทดสอบภาคสนาม THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 รถยนต์เข้ารอบส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์ลูกผสม หรือไฮบริด และมีปิกอัพ อีก 1 รุ่น หากพิจารณาจากลักษณะของตัวรถ ปิกอัพอาจมีความเสียเปรียบรถรถยนต์นั่ง แต่การให้คะแนนต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและความคุ้มค่าของตัวผลิตภัณฑ์ในการใช้งานรถเป็นองค์ประกอบในการให้คะแนนด้วยเช่นกัน

 

ขณะที่กลุ่มรถพลังงานไฟฟ้านั้น ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ไม่สามารถส่งรถ  MERCEDES-AMG EQE 53 4MATIC+ เข้าร่วมทดสอบ คณะกรรมการจึงตัดสิทธิ์รถรุ่นดังกล่าวไป ทำให้มีรถเข้าสู่การทดสอบภาคสนาม 5 คัน การให้คะแนนมีความยาก และซับซ้อนกว่า เนื่องจากระบบ อุปกรณ์ ปุ่มควบคุมต่างๆ รวมถึงคันเกียร์ ของแต่ละแบรนด์แตกต่างกันอย่างมาก กรรมการผู้ให้คะแนนแต่ละคนจึงต้องคำนึงถึงลักษณะการใช้งาน เป็นองค์ประกอบร่วม ไม่ได้มองในเรื่องระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ หรือความแรงของกำลังมอเตอร์เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งมีกรอบแนวทางการการตัดสินใจลงคะแนนเป็นองค์รวมอยู่แล้วตามที่กล่าวมาข้างต้น

 

นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆ เช่น วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการตกแต่ง มีความคงทน คุ้มกับราคามากน้อยเพียงใดอีกด้วย เป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก เพราะเป็นปีแรกของการให้รางวัลรถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยม และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่มีรางวัลรถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมประจำปี

 

สำหรับการประกาศรางวัลรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566THAILAND CAR OF THE YEAR 2023 และ THAILAND EV OF THE YEAR 2023 ประกาศผลในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 นี้ที่ศูนย์ประชุม เดอะฮอลล์ ถนนวิภาดีรังสิต โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการมอบรางวัลเกียรติยศในครั้งนี้ด้วย

Visitors: 5,034,967