PTG เดินหน้าใช้ RDF ทดแทนถ่านหิน
PTG ตอกย้ำผู้นำ ESG ผนึก SCG เดินหน้าใช้ RDF ทดแทนถ่านหิน เร่งจัดการขยะน้ำท่วมภาคใต้กว่า 7,500 ตัน ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดันขยะสู่พลังงานสะอาด ฟื้นฟูชุมชนกลับสู่ชีวิตที่ “อยู่ดีมีสุข”
กลุ่มบริษัท PTG เดินหน้าสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดสงขลา ด้วยการยกระดับบทบาทผู้นำด้านบริหารจัดการขยะเพื่อพลังงาน (Waste-to-Energy) ผ่านบริษัทในเครือ บริษัท พลังงานพัฒนา 5 จำกัด หรือ PP5 เร่งเข้าดำเนินการคัดแยกและกำจัดขยะตกค้างกว่า 7,500 ตัน เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข พร้อมคืนสภาพพื้นที่ให้ชุมชนกลับมาอยู่อาศัยได้อย่าง “อยู่ดีมีสุข” อีกครั้ง

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) เปิดเผยว่ากลุ่มบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCG) นำเชื้อเพลิง RDF จำนวนกว่า 1,500 ตัน ไปใช้ทดแทนถ่านหินในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ที่จังหวัดสระบุรี ช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และส่งผลโดยตรงต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรม ส่วน ที่เหลือได้ถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าขยะ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและสร้างประโยชน์ต่อระบบพลังงานหมุนเวียนของประเทศ ทำให้ขยะที่เคยเป็นภาระหลังน้ำท่วมถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด

"เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ขยะจำนวนมากกลายเป็นปัญหาเร่งด่วนต่อชุมชน การเข้าไปช่วยจัดการและแปรรูปให้เกิดประโยชน์ เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของ PTG ในการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือจาก SCG ในการนำ RDF ไปใช้ทดแทนถ่านหิน ถือเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนสำคัญในการสร้างผลลัพธ์อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายของ PTG ในการมุ่งสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2030”
ภารกิจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ PTG ในการผลักดันการจัดการขยะอย่างครบวงจร โดยนำทรัพยากรเหลือใช้มาเพิ่มมูลค่าผ่านกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงขยะ หรือ RDF ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการแปรรูปขยะให้เป็นพลังงานทดแทน โดย PP5 มีความเชี่ยวชาญตั้งแต่การคัดแยกและทำความสะอาดขยะเน่าเสีย การควบคุมคุณภาพกระบวนการผลิต ไปจนถึงการส่งมอบ RDF เพื่อใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม