ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม โตโยต้าแชมป์ยอดขายอันดับหนึ่ง

ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม ยอดขาย 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.4% โตโยต้ายังครองแชมป์ยอดขายอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาดแปดเดือนแรกที่ 37.3%

 

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2568 ยอดขายตลาดรวม 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 18,168 คัน ลดลง 0.7% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 29,454 คัน เพิ่มขึ้น 12.3% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 14,599 คัน ลดลง 2.5%

ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม 2568 มียอดขาย 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง ยอดขาย 18,168 คัน ลดลง 0.7% จากปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขาย 29,454 คัน เพิ่มขึ้น 12.3% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 14,599 คัน ลดลง 2.5% รถยนต์ในกลุ่ม HEV มียอดขาย 11,230 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 26% และมียอดขายสะสมแปดเดือนแรกถึง 89,598 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 50.6% ของตลาด xEV ทั้งหมด

 

สำหรับโตโยต้า ยังคงครองอันดับหนึ่งตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสมแปดเดือนแรกถึง 149,328 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 37.3% นำโดย Yaris ATIV 35,017 คัน และ Hilux REVO 25,182 คัน สำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่ได้มีการแนะนำ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดย New Yaris ATIV HEV น้องใหม่ล่าสุดสายไฮบริด ทำยอดจองสะสมหลังจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม จนถึงวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา มากกว่า 3,700 คัน ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ รุ่น NEW bZ4X ที่เปิดรับจองสิทธิ์ผ่านช่องทางออนไลน์ มีผู้สนใจลงทะเบียนที่ 1,890 คัน (ข้อมูล ณ วันที่ 26 กันยายน 2568)

ตลาดรถยนต์เดือนกันยายน มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภครอความชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ อาจส่งผลให้ชะลอการซื้อ ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ผันผวน และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย

 

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนสิงหาคม 2568

1.      ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.4%         

อันดับที่ 1 โตโยต้า      17,279 คัน       ลดลง       3.2%          ส่วนแบ่งตลาด   36.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          5,581 คัน       ลดลง     9.2%              ส่วนแบ่งตลาด   11.7%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       5,557 คัน       เพิ่มขึ้น      11%           ส่วนแบ่งตลาด    11.7%

2.      ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,168 คัน ลดลง 0.7%     

อันดับที่ 1 โตโยต้า      5,892 คัน       เพิ่มขึ้น      6.1%          ส่วนแบ่งตลาด  32.4%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า       3,056 คัน        ลดลง      7.5%          ส่วนแบ่งตลาด  16.8%

อันดับที่ 3 บีวายดี       1,379 คัน        ลดลง    36.5%          ส่วนแบ่งตลาด  7.6%

3.      ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 29,454 คัน เพิ่มขึ้น 12.3%   

อันดับที่ 1 โตโยต้า      11,387 คัน       ลดลง      7.3%           ส่วนแบ่งตลาด  38.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ         5,485 คัน       ลดลง      9.2%             ส่วนแบ่งตลาด   18.9%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       2,501 คัน       เพิ่มขึ้น     46.9%         ส่วนแบ่งตลาด    8.5%

4.      ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 14,599 คัน ลดลง 2.5%  

อันดับที่ 1 โตโยต้า        6,619 คัน      ลดลง     6.6%          ส่วนแบ่งตลาด  45.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ            4,736 คัน      ลดลง     10.2%         ส่วนแบ่งตลาด   32.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด          1,500 คัน      ลดลง      0.1%           ส่วนแบ่งตลาด  10.3%

                     *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,576 คัน

โตโยต้า1,162 คัน -– เกรท วอลล์ มอเตอร์ 973 คัน -–  อีซูซุ 796 คัน -– ฟอร์ด 540 คัน มิตซูบิชิ 101 คัน

 – นิสสัน 4 คัน

5.      ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,023 คัน ลดลง 10.4%        

อันดับที่ 1 โตโยต้า       5,457 คัน      ลดลง   12.9%            ส่วนแบ่งตลาด   49.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ           3,940 คัน     ลดลง    4.3%             ส่วนแบ่งตลาด    35.7%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด           960 คัน       เพิ่มขึ้น  0.1%            ส่วนแบ่งตลาด   8.7%   

 

 

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – สิงหาคม 2568

1.      ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 399,945 คัน เพิ่มขึ้น 0.1%   

อันดับที่ 1 โตโยต้า      149,328 คัน     ลดลง   1.7%              ส่วนแบ่งตลาด  37.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          48,572 คัน       ลดลง   17.9%            ส่วนแบ่งตลาด   12.1%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       45,917 คัน       ลดลง   14.9%            ส่วนแบ่งตลาด  11.5%

2.      ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 154,766 คัน เพิ่มขึ้น 0.4%             

อันดับที่ 1 โตโยต้า      51,931 คัน       เพิ่มขึ้น  17.7%           ส่วนแบ่งตลาด  33.6%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า       25,622 คัน       ลดลง    16.1%           ส่วนแบ่งตลาด 16.6%

อันดับที่ 3 บีวายดี       13,837 คัน       ลดลง    7.3%            ส่วนแบ่งตลาด   8.9%

3.      ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 245,179 คัน เพิ่มขึ้น 0.2%                

อันดับที่ 1 โตโยต้า      97,397 คัน       ลดลง     9.6%           ส่วนแบ่งตลาด   39.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          48,572 คัน       ลดลง   17.9%           ส่วนแบ่งตลาด   19.8%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       20,295 คัน       ลดลง   13.2%           ส่วนแบ่งตลาด   8.3%

4.      ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 124,156 คัน ลดลง 11%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      55,822 คัน       ลดลง   13%             ส่วนแบ่งตลาด  45%

อันดับที่ 2 อีซูซุ         42,055 คัน       ลดลง   18.7%           ส่วนแบ่งตลาด   33.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        12,431 คัน       ลดลง   15.6%            ส่วนแบ่งตลาด  10%

                     *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 28,110 คัน

โตโยต้า 9,562 คัน - อีซูซุ7,883คัน - ฟอร์ด 4,812 คัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ 4,446 คัน - มิตซูบิชิ 1,113 คัน

นิสสัน 294 คัน

5.      ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 96,046 คัน ลดลง 16.5%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      46,260 คัน       ลดลง  16.5%          ส่วนแบ่งตลาด   48.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          34,172 คัน       ลดลง  21.4%            ส่วนแบ่งตลาด   35.6%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        7,619 คัน       ลดลง  16.9%             ส่วนแบ่งตลาด           7.9%  

Visitors: 6,211,196