ขับมาสด้า CX-3 สีใหม่ ร่วมทริป MAZDA SKYACTIV CARAVAN กทม.-เขาใหญ่

มาสด้า จัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์ครั้งยิ่งใหญ่สุดแห่งปี MAZDA SKYACTIV CARAVAN บทพิสูจน์เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ รวมกว่า 30 คัน โดยกิจกรรมในทริปนี้ inMarketingnews.com ประจำการ NEW MAZDA CX-3 สีใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) ซึ่งเป็นสีที่กำลังมาแรงได้รับความนิยมสูงสุดของแบรนด์มาสด้า ด้วยสัดส่วนกว่า 30% ของยอดขายในช่วงนี้ โดยมีคุณสมชาย พรหมหนู จากหนังสือพิมพ์ Autopreview เป็นเพื่อนร่วมทางตลอดกิจกรรมทริปนี้

มาสด้า จัดกิจกรรม MAZDA SKYACTIV CARAVAN กับการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่สุดแห่งปี นำสื่อมวลชนร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับไม่ซ้ำแบบใคร กับกิจกรรมพิสูจน์สมรรถนะรถยนต์รุ่นใหม่ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ให้ความแรง ประหยัดน้ำมัน ขับสนุก เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่อัดแน่นมาเต็มเปี่ยม กับยนตรกรรมรถใหม่ทั้งหมด 7 รุ่น รวม 30 คัน บนเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ รวมระยะทางไปกลับกว่า 400 กม. นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์รถยนต์มาสด้าในประเทศไทย

คุณชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า หลังจากที่มาสด้าได้เปิดตัวแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟครบทุกรุ่น ทั้ง ครอสโอเวอร์เอสยูวีและรถยนต์นั่งลงสู่ตลาดประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อปลายปี 2564 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ผลิตภัณฑ์ของมาสด้ามีความครบครัน พร้อมไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในประเทศไทย วันนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ โดยมาสด้าได้จุดประกายไอเดียจัดกิจกรรมครั้งยิ่งใหญ่สุดแห่งปี กับ MAZDA SKYACTIV CARAVAN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมจัดขึ้นเพื่อให้สื่อมวลชนได้พิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์มาสด้าภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง มอบความสนุกสนานเร้าใจในการขับขี่ อันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้าในการเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่ความสุขและสุนทรียภาพในการขับขี่ให้กับลูกค้า

 

เทคโนโลยีสกายแอคทีฟของมาสด้า เกิดจากความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบรถยนต์ที่ให้ประสบการณ์ในการขับขี่ที่ดีเยี่ยมในทุกเส้นทาง เราจึงได้คิดค้นและพัฒนารถยนต์เพื่อพัฒนาสมรรถนะของรถและเครื่องยนต์ให้มีกำลังแรง แต่ประหยัดน้ำมัน โดยได้นำนวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ผนวกกับเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ บอดี้ และแซสซี เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ทุกส่วนทำงานสอดประสานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และมอบความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้ตลอดการเดินทางเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขอย่างเท้จริง ซึ่งนับตั้งแต่รถยนต์มาสด้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ก็เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าชาวไทย จนถึงปัจจุบันก็มีรถยนต์รุ่นเหล่านี้อยู่ภายใต้การครอบครองของลูกค้าชาวไทยแล้วถึง 313,635 คัน ทำให้แบรนด์มาสด้ากลายเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ลูกค้าให้การยอมรับ

คุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการเดินทางในครั้งนี้ ได้ถูกจัดขึ้นในรูปแบบของคาราวานรถยนต์ ที่มีจำนวนรถยนต์มากที่สุดถึง 7 รุ่น รวมทั้งหมด 30 คัน ประกอบด้วย Mazda MX-5, Mazda2, Mazda3, CX-3, CX-30, CX-5 และ CX-8 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ดินแดนมรดกโลก ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมระยะทางกว่า 400 กม. เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทดสอบการขับขี่ในหลากหลายสถานการณ์ ทั้งแบบในเมือง นอกเมือง การขับบนเส้นทางคดเคี้ยว และสัมผัสถึงสมรรถนะการขับขี่ที่มีความแตกต่างกัน รวมถึงได้ทดสอบระบบการทำงานต่างๆ ของรถยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับสุนทรียภาพความสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่สวยงามของวิวทิวทัศน์ตลอดสองข้างทางจนถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ได้แบ่งสื่อมวลชนออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์และสมรรถนะของรถได้อย่างเต็มที่

การจัดกิจกรรม MAZDA SKYACTIV CARAVAN ในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่สื่อมวลชนจะได้สัมผัสกับสมรรถนะของรถยนต์เท่านั้น แต่ผู้ที่พบเห็นก็ยังได้ยลโฉมรูปลักษณ์ที่งดงามที่ได้รับการออกแบบตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น อันมีเอกลักษณ์ของรถยนต์มาสด้าในทุกรุ่น โดยเฉพาะความสง่างามของสีภายนอกเทรนด์ใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ทางการขาย ด้วยการเป็นสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ดังเช่นสีเอกลักษณ์สีอื่นๆ ของมาสด้า ที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้ ได้แก่ สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ และสีแดง โซล เรด คริสตัล ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาสด้าเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง กล้าที่จะแตกต่างและไม่ซ้ำใคร

“นี่คืออีกบทหนึ่ง ของกิจกรรมพิสูจน์สมรรถนะรถยนต์มาสด้าภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง และเป็นการสร้างการรับรู้จดจำของแบรนด์มาสด้า ทั้งนี้ มาสด้าจะยังคงเดินหน้าพัฒนายนตรกรรมต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการส่งมอบรถยนต์ที่เปี่ยมคุณภาพทั้งด้านสมรรถนะและดีไซน์เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืนต่อไป” คุณธีร์ กล่าวเพิ่มเติม

 

เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ

จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ปฏิเสธไม่ได้ว่า แม่เหล็กสำคัญที่ดึงผู้บริโภคให้เข้าหามาสด้า คือ การนำเอาเทคโนโลยีสกายแอคทีฟมาใส่ไว้ในรถยนต์ทุกรุ่นในเจเนอเรชั่นที่ 6 ควบคู่ไปกับการนำแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า “โคโดะ ดีไซน์” (Kodo design) มาใช้ตั้งแต่ปี 2556 จนทำให้รถยนต์ของมาสด้าได้รับเสียงตอบรับอย่างดียิ่ง ทำให้มาสด้าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์เมืองไทยและอาเซียนได้อย่างน่าสนใจ

ต่อมามาสด้าได้นำเสนอธีมการออกแบบใหม่ล่าสุด คือ การสร้างเอกลักษณ์แบบเรียบหรูสง่างาม (ELEGANCE) เพื่อแสดงถึงคุณค่าแห่งสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น หรือความงดงามที่ละเอียดอ่อน หรูหรา สมบูรณ์แบบ ลดทอนองค์ประกอบที่มากเกินไปคงเหลือไว้แต่สิ่งที่สำคัญ ตามคอนเซ็ปต์ Less is more ซึ่งเป็นรากฐานทางวัฒนธรรมประเพณีของญี่ปุ่น เพื่อแสดงออกถึงความสง่าผ่าเผย มีเสน่ห์ดึงดูดใจ จนกลายเป็นภาพลักษณ์ยุคใหม่ของมาสด้า

•เครื่องยนต์ SKYACTIV ENGINE มาสด้าเป็นค่ายแรกที่มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเครื่อยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน และสกายแอคทีฟคลีนดีเซล SKYACTIV-G (สกายแอคทีฟ-จี) คือเครื่องยนต์เบนซินแบบไดเรค อินเจ็คชั่น ที่ให้ประสิทธิภาพสูง เจเนอเรชั่นใหม่ที่เป็นนวัตกรรมชิ้นเอกของวงการยานยนต์โลก นับว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีอัตราแรงอัดอากาศในการเผาไหม้สูงที่สุดของโลก คืออัตรา 14:1 โดยที่เครื่องยนต์ไม่เกิดอาการน๊อค SKYACTIV-D (สกายแอคทีฟ-ดี) คือเครื่องยนต์ดีเซลที่เผาไหม้สะอาดเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดที่สามารถผ่านข้อกำหนดมาตรฐานไอเสียโลกโดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเร่งปฏิกิริยาที่มีราคาสูงเพื่อลดไอเสีย ซึ่งเป็นผลงานล้ำค่าที่ได้จากเครื่องยนต์นี้ที่มีอัตราส่วนการอัดอากาศต่ำที่สุดในโลกที่ 14:1

•เกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE แบบ 6 สปีด ถูกออกแบบเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดด้วยการรวมข้อดีของเกียร์อัตโนมัติทุกระบบเข้าไว้ด้วยกัน ให้การตอบสนองได้อย่างแม่นยํา การเปลี่ยนเกียร์ที่ราบรื่น ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซลแรงบิดสูง ขณะออกตัวแรงเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว และเร่งแซงได้อย่างนุ่มนวล

•โครงสร้างตัวถัง SKYACTIV BODY ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง (High Tensile Steel) น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง และทนต่อแรงบิดมากขึ้น มีความปลอดภัยขั้นสูงสุดหากเกิดการชนปะทะ ให้การควบคุมรถที่มั่นคงช่วยลดแรงสะเทือนจากถนน และกระจายแรงปะทะที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงช่วยประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น

•ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว SKYACTIV-CHASSIS เทคโนโลยีช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวเจเนอเรชั่นใหม่ที่พัฒนาให้มีน้ำหนักลดลง แต่ให้ความแข็งแกร่งและคล่องตัว ให้การควบคุมที่ดีในทุกช่วงความเร็ว ด้วยระบบบังคับเลี้ยวเจเนอเรชั่นใหม่ด้วยพลังงานไฟฟ้าช่วยให้ควบคุมได้ดั่งใจ รองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และรักษาสเถียรภาพในการทรงตัวได้อย่างเหนือชั้น รวมถึงช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่แบบ Jinba-ittai ที่ผสานความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถได้ดียิ่งขึ้น

•ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) มาสด้าได้ติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด G-Vectoring Control Plus ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่พัฒนาต่อจากระบบ GVC ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล โดยเฉพาะการเข้าโค้งและสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถได้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

•ระบบ i-ACTIVSENSE ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยระดับโลก ความปลอดภัยเชิงป้องกัน Mazda Proactive Safety เป็นวิธีการอันเข้มข้นในการเพิ่มสภาวะที่ผู้ขับขี่สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยให้ได้มากที่สุดและมั่นใจยิ่งขึ้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความสุขในการขับขี่ที่แท้จริงสำหรับลูกค้าทุกคน ฟังก์ชั่นและคุณลักษณะความปลอดภัยก่อนเกิดเหตุที่เพิ่มขึ้นใหม่ ทำให้เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงของมาสด้าช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อน และลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายหรือการบาดเจ็บ รวมถึงการเริ่มนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อสนับสนุนการรับรู้และการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

Kodo design ความสวยงามอันละเอียดอ่อนที่แสดงถึงความแข็งแกร่งอันประณีต โดยมุ่งเป้าไปที่การกระตุ้นอารมณ์และความมีชีวิตชีวาอันทรงพลังภายใต้แนวคิด “Kodo design” Soul of Motion หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว มาต่อยอดไปสู่ระดับที่สูงขึ้นด้วยการสร้างความรู้สึกถึงความงามที่ดึงดูดความรู้สึกอ่อนไหว ด้วยความมุ่งมั่นในการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่บรรจงสรรสร้างขึ้น ทีมออกแบบมุ่งเน้นไปที่สุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น เริ่มต้นด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายปราศจากชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นเฉกเช่นเดียวกับที่ใช้ในงานหัตถกรรมสไตล์ญี่ปุ่น โดยนำแนวคิด “ความแข็งแกร่งอันประณีต” มาใช้เป็นแกนหลัก ได้แก่ “รูปทรงที่ใหญ่โต” “รูปแบบที่สง่างาม” และ “ความลงตัวและงานตกแต่งที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด” เป็นแกนหลักในการออกแบบภายนอกและภายใน

มาสด้า CX-3 ใหม่ ที่ร่วมกิจกรรม  MAZDA SKYACTIV CARAVAN ในครั้งนี้ มากับปรัชญา “LEAP FORWARD : ให้ชีวิตไปอีกขั้น กับเอสยูวีใหม่ที่คุ้มค่ากว่า” โดยผ่านการปรุงแต่งผลิตภัณฑ์ใหทันสมัย ใส่อุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มหลายรายการ แต่ขายในราคาเดิม ทั้งนี้เพื่อสร้างความแตกต่างถึงความคุ้มค่ากับแบรนด์คู่แข่งในตลาด และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

 

1.ภาพรวม : วัตถุประสงค์ของการปรับปรุงผลิตภัณฑ์

มาสด้ามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ครอสโอเวอร์รุ่นนี้ ซึ่งที่เป็นที่รู้จักในเรื่องรูปลักษณ์ที่งดงาม ให้มีความทันสมัยและหรูหรายิ่งขึ้น และเป็นรถที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ CX-3 ได้เปิดตัวในปี 2558 รถรุ่นนี้ได้กลายเป็นต้นแบบของรถประเภทคอมแพ็คครอสโอเวอร์เอสยูวี ที่ต้องตาต้องใจของลูกค้าด้วยความล้ำสมัย รูปลักษณ์ที่โดดเด่นและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานส่วนบุคคล

การปรับเปลี่ยนครั้งที่ 4 นี้ เป็นการพัฒนาคุณสมบัติด้านคุณภาพและประณีต ซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้รถรุ่นนี้เป็นที่ดึงดูดตาดึงดูดใจต่อผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องของการออกแบบเท่านั้น แต่ยังสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในอีกหลากหลายกลุ่ม มาสด้าหวังว่า New Mazda CX-3 จะนำมาซึ่งความสนุกสนานและสุนทรียภาพในการขับขี่ให้กับลูกค้า รวมถึงทุกคนที่ไม่เคยได้ทดลองขับครอสโอเวอร์เอสยูวี หรือแม้กระทั่งผู้ที่เพิ่งเริ่มขับรถด้วยเช่นกัน

 

2.การออกแบบ : การออกแบบภายนอก รถยนต์รุ่นที่เน้นถึงความทรงพลังและความสง่างาม

การออกแบบยนตรกรรมดุจงานศิลปะ โดยเติมจิตวิญญาณให้ยนตรกรรมมีชีวิต ตามแบบฉบับความงดงามในแบบญี่ปุ่นผ่านการนำเส้นสายที่เรียบง่าย แต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวมาใช้เพื่อออกแบบรถมาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ ตามหลักแนวคิด Kodo Design: Soul of Motion การสะท้อนจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวที่งดงามและทรงพลังของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ ด้วยท่วงท่าที่ สง่างาม ปราดเปรียว เช่นเดียวกับเสือชีต้าห์ขณะซุ่มรอจังหวะกระโจนเข้าตะครุบเหยื่อ หรือนักสู้เคนโด้ที่กำลังเงื้อมือรวบรวมพละกำลังไว้ที่ปลายดาบพร้อมจู่โจมคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วและเฉียบคม

New Mazda CX-3 ได้ผสานทุกความโดดเด่นและความประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด ผ่านการออกแบบที่เรียบง่ายแต่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความงามที่พาดผ่านบนตัวรถ ซึ่งแฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวทรงพลังราวกับมีชีวิต จึงทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นพรีเมี่ยม ต้องตาต้องใจผู้พบเห็นตามสไตล์รถ ครอสโอเวอร์เอสยูวี การันตีความสง่างามบนเวทีระดับโลกจากการติดอันดับ Top 3 รางวัลออกแบบยอดเยี่ยมของโลก World Car Design of the Year เมื่อปี 2016 (หรือปี พ.ศ. 2559) มาแล้ว

 

สีภายนอก : เพิ่มสีภายนอกใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์

จากการใช้โทนสีที่หรูหราและมีคุณภาพสูงเป็นสีพื้น จึงทำให้เกิดเป็นสีภายนอกใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ และเพื่อให้สอดคล้องกับการออกแบบตามแนวคิด Kodo Design และการแสดงออกของรูปทรงสามมิติกับความรู้สึกของมวลวัตถุ  จึงออกแบบให้ส่วนที่ไฮไลท์ดูเรียบเนียน ในขณะที่โทนสีกลางให้พื้นผิวที่หยาบและโปร่งแสงที่ชวนให้นึกถึงควอตซ์

ภายนอกของ New Mazda CX-3 มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีขาว เซรามิก เมทัลลิค (Ceramic Metallic), สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)

 

การออกแบบภายใน

ภายในห้องโดยสารมีความประณีต พิถีพิถันทุกรายละเอียด ภายในห้องโดยสารของ New Mazda CX-3 ที่ยกระดับงานดีไซน์ไปอีกขั้น ด้วยวัสดุเกรดพรีเมี่ยม พร้อมเพิ่มความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยคอนโซลหน้าแบบ Grand Luxe Suade® สีเทา ผสานกันอย่างลงตัวกับเบาะหนังสีดำตัดด้ายสีเทา

 

รถรุ่นนี้ยังคงได้รับการพัฒนาภายใต้ปรัชญา HMI (Human-Machine Interface) ด้วยการจัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานในตำแหน่งศูนย์กลาง เพื่อให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งคนขับไฟฟ้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง* และระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control ทั้งยังโดดเด่นด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า พนักพิงเบาะหลังสามารถแยกพับ 60:40 อิสระจากกัน พร้อมพนักวางแขน และที่วางแก้วแบบมีฝาปิด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ

 

ระบบ Infotainment

ติดต่อกับโลกโซเชียลและอัพเดทเทรนด์ได้ทุกที่ กับเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัดใน New Mazda CX-3 สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนด้วยการเชื่อมต่อผ่านระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม “Wireless Apple CarPlay® และยังรองรับ Android AutoTM* ให้คุณสามารถใช้งานฟังก์ชั่นสำคัญได้โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 7 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander สะดวกสบายขึ้นไปอีกขั้นด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger ตอบไลฟ์สไตล์ดิจิตอล พร้อมเชื่อมต่อได้สะดวกทุกที่

3.สมรรถนะการขับขี่ : SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS

อีกขั้นของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟใน New Mazda CX-3 ที่ผสานและควบคุมการทำงานของรถทั้งคัน ตั้งแต่เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถัง ไปจนถึงช่วงล่าง ให้ทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกในการขับขี่ตามแนวคิด จินบะ อิไต (Jinba Ittai) ของมาสด้า ที่ไม่ใช่เพียงให้ผู้ขับและรถเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น แต่ยังให้ผู้โดยสารสัมผัสถึงความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง

SKYACTIV-G เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน

มาพร้อมความแรงที่เหนือกว่ากับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร เครื่องยนต์เผาไหม้สมบูรณ์ ที่ให้อัตราเร่งและการตอบสนองดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อัตราส่วนการอัดสูงถึง 14.0:1 ให้แรงม้า แรงบิดสูงถึง 204 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 16.4 กม./ลิตร*

 

SKYACTIV-DRIVE

เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ รวมข้อดีของเกียร์อัตโนมัติทุกระบบ ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ เปลี่ยนเกียร์ราบรื่น ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว

 

SKYACTIV-BODY

โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ ที่ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง High Tensile Steel น้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง ให้การควบคุมรถที่มั่นคง ช่วยลดแรงสะเทือนจากถนน และกระจายแรงปะทะที่เข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

 

SKYACTIV-CHASSIS

ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ ระบบช่วงล่างที่เกาะถนนมั่นคง และให้ความนุ่มนวลแก่ห้องโดยสาร พร้อมระบบบังคับเลี้ยวที่ช่วยให้เข้าโค้งได้แม่นยำ ทั้งปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน

 

G-VECTORING CONTROL (GVC)

ควบคุมทุกเส้นทางได้อย่างมั่นใจ ด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ที่ให้ผู้ขับขี่และรถเป็นหนึ่งเดียวกัน และมอบความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง โดยระบบจะประมวลผลจากการบังคับพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ความเร็วของรถ รวมถึงน้ำหนักของเท้าที่กดลงบนแป้นคันเร่ง จากนั้นจะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ และถ่ายน้ำหนักที่เหมาะสมไปสู่แต่ละล้อ ทำให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ควบคุมได้แม่นยำในทุกสถานการณ์

 

ขณะรถเริ่มเข้าโค้ง

เครื่องยนต์จะลดแรงบิดลงให้เหมาะสมกับลักษณะของโค้ง ทำให้น้ำหนักของตัวรถถ่ายมายังล้อหน้า ส่งผลให้ล้อหน้ายึดเกาะถนนมากขึ้น เข้าโค้งได้แม่นยำ สมดุล

 

ขณะรถอยู่ในโค้ง

ระบบจะควบคุมการถ่ายน้ำหนักของตัวรถให้อยู่ในสภาวะสมดุลทั้งหน้าและหลัง ทำให้การแก้พวงมาลัยในโค้งเกิดขึ้นน้อยที่สุด

 

ขณะรถออกจากโค้ง

ระบบจะปรับให้แรงบิดของเครื่องยนต์กลับมาอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม ส่งผลให้น้ำหนักของตัวรถถูกถ่ายไปยังล้อหลัง เพื่อให้รถวิ่งออกจากโค้งได้อย่างมีเสถียรภาพ

 

ระบบประหยัดพลังงานอัจฉริยะ

I-STOP (Idling Stop System) ระบบประหยัดน้ำมันที่สั่งให้ครื่องยนต์หยุดการทำงานชั่วคราวเมื่อรถจอดนิ่ง ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยังคงทำงานตามปกติ ทำให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเครื่องยนต์จะกลับมาทำงานได้โดยอัตโนมัติทันทีเมื่อรถพร้อมออกตัว

 

4.ระบบความปลอดภัย

ปรัชญาเรื่องความปลอดภัยเชิงป้องกันของมาสด้า (Mazda Proactive Safety) เป็นแนวทางในการวิจัยและพัฒนาของบริษัทในด้านสมรรถนะด้านความปลอดภัย ความล้ำหน้าของการขับขี่ในทุกด้านตั้งแต่พื้นฐานด้านความปลอดภัย เช่น ตำแหน่งท่านั่งในการขับขี่ เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงปกป้องไปจนถึงเทคโนโลยี i-Activsense ที่ล้ำหน้า

 

New Mazda CX-3 มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มอบความอุ่นใจไปตลอดการเดินทาง โดยส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) รวมถึงระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง อีกหลายเทคโนโลยีความปลอดภัย เพื่อความมั่นใจขึ้นกว่าในทุกการขับขี่ที่มีอยู่ใน New Mazda CX-3 ประกอบด้วย

-ระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง (360° View Monitor)

-ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

-ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)

-ระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EDB และระบบช่วยเบรก BA

-ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)

-ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ( Traction Control System)

-ระบบช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)

-ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)

-ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย

-ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด

-เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold

มาสด้าลุยตลาด B-SUV เปิดตัว NEW MAZDA CX-3

เพิ่มออฟชั่นเต็มคัน วางราคาจำหน่ายเท่าเดิมเริ่มต้น 7 แสนกว่า

มาสด้าเปิดเกมส์บุกหนักตลาดครอสโอเวอร์เอสยูวี เปิดตัวแนะนำ NEW MAZDA CX-3 มาพร้อมแนวคิด “Leap Forward” ให้ชีวิตไปอีกขั้น กับเอสยูวีใหม่ที่คุ้มค่ากว่า ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เชื่อมต่อคนรุ่นใหม่กับโลกยานยนต์ด้วยการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัด มาพร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อิสระสังคมแห่งโลกยุคดิจิตอล พบกับอีกระดับของสีภายนอกเทรนด์ใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ มอบความสปอร์ตพรีเมี่ยมในทุกมุมมอง สะท้อนเอกลักษณ์ความมีสไตล์ของผู้ขับขี่ที่ชัดเจน ตั้งเป้าเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่กลุ่ม B-SUV และ B-Car Upper ที่มองหารถเอสยูวีคันแรก ที่ตอบครบทั้งไลฟ์สไตล์และภาพลักษณ์ตลอดจนฟังก์ชั่นการใช้งานบนพื้นฐานความคุ้มค่า ตั้งราคาขายเริ่มต้นเพียง 769,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัวกับดอกเบี้ย 1.33%1 ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี2

MAZDA CX-3 ถือเป็นหนึ่งในรถครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นเริ่มต้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากลูกค้าทั่วโลกรวมทั้งลูกค้าชาวไทย เปิดตัวแนะนำครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 สามารถสร้างยอดขายให้กับมาสด้าได้อย่างต่อเนื่อง กลายเป็นโมเดลที่ทำสถิติเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และล่าสุดในปีนี้ (เดือนมกราคม-ตุลาคม 2564) ก็สร้างสถิติใหม่ด้วยอัตราการเติบโตสูงสุดถึง 104% ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 โดยมียอดขายสะสมสูงถึง 3,500 คัน ซึ่งการเปิดตัว NEW MAZDA CX-3 ครั้งนี้ นับเป็นการวางกลยุทธ์ใหม่ของมาสด้า ในการสร้างความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์ให้กับรถเอสยูวีในตระกูล CX-Series

การเปิดตัว NEW MAZDA CX-3 ครั้งนี้ เป็นการพัฒนาปรับโฉมเป็นครั้งที่สี่ ซึ่งทำให้ CX-3 เป็นเอสยูวีที่ล้ำสมัยและทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีในยุคดิจิตอลอยู่เสมอ ทั้งยังเป็นการกลับมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ในกลุ่ม B-SUV ด้วยการเป็นรถที่ให้มากกว่าความคุ้มค่า กับราคาที่จับต้องได้และเป็นเจ้าของได้ง่าย ครบครันด้วยเทคโนโลยี ที่ตอบรับและเข้าใจความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิตอลได้อย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้ CX-3 ยังมาพร้อมกับการเปิดตัวสีใหม่ล่าสุด เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งดีไซน์เนอร์เจาะจงใช้เทรนด์สีใหม่แห่งอนาคต  สี บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ เพื่อก้าวสู่เทรนด์แฟชั่นใหม่ก่อนใคร และเชื่อว่าสีดังกล่าวจะมาสร้างกระแสนิยมใหม่ให้กับวงการรถยนต์ เช่นเดียวกับกระแสตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี กับสีซิกเนเจอร์ของมาสด้าต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้ง สีแดง โซล เรด คริสตัล, สีเทา แมชชีน เกรย์ และสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ พร้อมยกระดับความพรีเมี่ยม ล้ำสมัยในทุกด้านของผลิตภัณฑ์รถครอสโอเวอร์ของมาสด้า ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และแสดงออกถึงตัวตนของลูกค้าในยุคดิจิตอลได้อย่างแท้จริง ซึ่งมาสด้ามั่นใจว่า รถรุ่นนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในประเทศไทยเช่นที่ผ่านมา

 

การเปิดตัวแนะนำ NEW MAZDA CX-3 ถือเป็นการวางกลยุทธ์ครั้งสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถประเภทครอสโอเวอร์เอสยูวีของประเทศไทย การปรับโฉมเพื่อให้มีความล้ำสมัยมากขึ้นอีกขั้น และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิตอลมากยิ่งขึ้น ซึ่งการกลับมาครั้งนี้มาพร้อมแนวคิด “Leap Forward” ให้ชีวิตไปอีกขั้น กับเอสยูวีใหม่ที่คุ้มค่ากว่า โดยมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีคาแรกเตอร์และมีสไตล์ อัพเดททุกเทรนด์ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่หยุดอยู่กับที่ มองทุกจังหวะเป็นโอกาส เลือกที่จะแข่งและเอาชนะตัวเอง เพื่อให้พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จอีกขั้น ได้ใช้ชีวิตและเติมเต็มประสบการณ์ของตัวเองและกลุ่มเพื่อนอย่างเต็มที่และคุ้มค่า  และกำลังมองหารถครอสโอเวอร์เอสยูวีคันแรกในกลุ่ม B-SUV ที่พร้อมด้วยเทคโนโลยี และมาพร้อมความคุ้มค่าครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งในเชิงภาพลักษณ์ ประสบการณ์และการใช้งานอย่างครบถ้วน เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายอีกขั้นของชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง

NEW MAZDA CX-3 จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการและตัวตนของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง ครบครันด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในรุ่นย่อยทั้ง 3 รุ่น รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด ตอบรับทุกประสบการณ์ที่ทำให้ชีวิตก้าวไปสู่อีกระดับ ด้วยความอเนกประสงค์ของการใช้งานที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ในทุกรุ่นย่อย ที่ให้พละกำลังแรงมากที่สุดในกลุ่มเซกเมนต์ถึง 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 16.4 กม.* และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยความเหนือชั้นของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ผสานและควบคุมการทำงานของรถทั้งคันให้ทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความสนุกคล่องตัวในการขับขี่ตามแนวคิด จินบะ อิไต (Jinba Ittai) พร้อมด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ที่ให้ผู้ขับขี่และรถเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

พบกับอีกขั้นของสไตล์ที่พรีเมี่ยมโดดเด่น พร้อมความสง่างามเป็นครั้งแรกกับสีภายนอกใหม่ล่าสุด Platinum Quartz สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ที่จะมาเสริมให้มาสด้ากลายเป็นผู้นำเทรนด์ของวัยรุ่นยุคสมัยใหม่ โดยเป็นสีที่แสดงออกถึงความมีคุณภาพสูง ด้วยผลึกกึ่งโปร่งแสงจากควอตซ์ที่ขาวละเอียด นวลเนียน และมีคุณภาพ สะท้อนตัวตนอันมีเอกลักษณ์ของผู้ขับขี่ มีความแตกต่างไม่ซ้ำใคร ให้ความรู้สึกหรูหรา ทรงพลัง และสง่างามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด Kodo design – Soul of Motion ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวที่เปรียบประดุจการเติมจิตวิญญาณให้ยนตรกรรมมีชีวิต เพื่อสะท้อนความเรียบหรูทรงพลังในสไตล์เอสยูวี และสร้างความตราตรึงใจให้กับผู้พบเห็น สำหรับภายในห้องโดยสารก็ยังคงโดดเด่นด้วยความประณีตพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด คัดสรรเลือกใช้เฉพาะวัสดุเกรดพรีเมี่ยมในทุกจุดสัมผัส พร้อมเพิ่มความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยคอนโซลหน้าแบบ Grand Luxe Suede® สีเทา ที่ผสานอย่างลงตัวกับเบาะหนังสีดำตัดด้วยด้ายสีเทา

เพื่อให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในยุคดิจิตอล NEW MAZDA CX-3 จึงมาพร้อมกับอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger ในทุกรุ่นย่อย เพื่อมอบความสะดวกสบายขึ้นอีกขั้น รวมถึงช่วยให้ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสารบนโลกโซเชียล และอัพเดทเทรนด์ได้ทุกที่ทุกเวลากับเทคโนโลยีเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด ที่สามารถใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ด้วยระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Wireless Apple CarPlay® และรองรับ Android AutoTM* ที่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นสำคัญได้โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 7 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander มอบความสะดวกสบายได้อย่างแท้จริง

 

การพัฒนาภายใต้ปรัชญา HMI (Human-Machine Interface) ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ ด้วยการจัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานในตำแหน่งศูนย์กลาง สะดวกสบายอีกระดับด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง และในทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้า แบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังเสริมความหรูหราโดดเด่นมีสไตล์ด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า และล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว มอบความอเนกประสงค์ด้วย พนักพิงหลังสามารถแยกพับ 60:40 อิสระจากกัน พร้อมพนักวางแขน และที่วางแก้วแบบมีฝาปิด ที่สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์เหนือระดับของผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว

มาถึงตรงนี้ จากที่สัมผัสมาสด้า CX-3 มาสองวัน กับระยะทางการขับขี่กว่า 400 กิโลเมตร ในเส้นทางที่หลากหลาย ต้องยอมรับว่า มาสด้า CX-3 ขับสนุก เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 156 แรงม้า ตอบสนองดียิ่งนัก ช่วงล่างหนึบจริง การควบคุมก็ง่าย ขับสบายๆ ไม่เหนื่อย แถมราคากับอุปกรณ์ที่ให้มาน่าหาเหนือกว่าคู่แข่งในตลาด ขณะที่ดีไซน์เฉียบคมบาดใจ ซึ่งทุกคนยอมรับและเข้าใจตรงกัน

 

ภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย

สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)

สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)

สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)

สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)

สีขาว เซรามิก เมทัลลิค (Ceramic Metallic)

สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)

สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)

ราคาจำหน่าย NEW MAZDA CX-3

รุ่น BASE           ราคาจำหน่าย        769,000 บาท

รุ่น BASE PLUS  ราคาจำหน่าย         809,000 บาท

รุ่น COMFORT   ราคาจำหน่าย         879,000 บาท

Visitors: 5,035,003