เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมเปิดราคา ORA Good Cat GT

เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมเปิดตัว ORA Good Cat GT | Next Level of the Future และประกาศราคาอย่างเป็นทางการ 29 มิถุนายน 2565 นี้

 

17 มิถุนายน 2565 : เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความปลอดภัย สะดวกสบาย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เตรียมเปิดตัวเจ้าเหมียวไฟฟ้าแนวสปอร์ต ORA Good Cat GT | Next Level of the Future ซึ่งมาพร้อมภาพลักษณ์ที่ดุดันขึ้นด้วยการตกแต่งภายนอกและภายใน และพละกำลังเหนือชั้นไปอีกระดับ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ไม่เป็นสองรองใคร รองรับการขับขี่ที่ปลอดภัยตลอดเส้นทาง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ความเท่แบบคนสมัยใหม่อย่างแท้จริง พร้อมเตรียมประกาศราคาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในวันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook: GWM Thailand และ ORA Thailand หรือ TikTok: GWM Thailand

ORA Good Cat GT รถไฟฟ้า 100% รุ่นย่อยพิเศษจากแบรนด์ ORA ได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เผยให้คนไทยยลโฉมครั้งแรกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากการทดสอบของสื่อมวลชนจากหลากหลายวงการ ทั้งสายรถยนต์ ไอที และสายรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 60 สื่อ ในช่วงระหว่างวันที่ 14-16 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ตั้งแต่ตัวรถสีอะควาเกรย์ (Aqua Grey) ที่สะดุดตา กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตลายคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมการตกแต่งชิ้นส่วนด้วยสีแดง ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมกับดิสก์เบรกคาลิปเปอร์สีแดงดีไซน์สปอร์ต และสปอยเลอร์หลังลวดลายโฉบเฉี่ยวพร้อมตราสัญลักษณ์ GT รวมถึงหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาที่สามารถเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ขณะที่ภายในออกแบบเป็นทูโทนด้วยสีดำและสีแดงสไตล์สปอร์ต ตั้งแต่พวงมาลัย เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง PVC สีดำเย็บด้ายแดง คอนโซลหน้า ที่เท้าแขนข้างประตู ไปจนถึงพนักพิงศีรษะตราสัญลักษณ์ GT และเข็มขัดนิรภัยสีแดง ORA Good Cat GT ยกระดับความเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกเร้าใจด้วยพละกำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร และระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) เสริมเสถียรภาพด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม เพิ่มดีกรีความปังไม่หยุดกับฟีเจอร์ความสะดวกสบายระดับแอดวานซ์ ได้แก่ ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยอำนวยความสะดวกแก่เจ้าของรถเเละผู้โดยสาร ต่อด้วยระบบนวดและระบบระบายอากาศบริเวณเบาะคนขับและเบาะผู้โดยสารด้านหน้า ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าในขณะขับขี่หรือเดินทางไกล ขณะที่เบาะคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 6 ทิศทาง รองรับการจัดท่านั่งให้สบายยิ่งขึ้น พร้อมบันทึกตำแหน่งและฟังก์ชั่น Welcome Seat ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้า-ออกจากรถได้อย่างง่ายดาย

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “จากกระแสตอบรับที่ดีของผู้บริโภคชาวไทยที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยินดีอย่างยิ่งที่จะส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษของเจ้าเหมียวไฟฟ้าทรงสปอร์ต ORA Good Cat GT ให้ชาวไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยเตรียมเปิดตัวและประกาศราคาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ พร้อมตอกย้ำประสบการณ์สุนทรียภาพแห่งการขับขี่ขั้นสุดกับความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวที่ปราดเปรียวยิ่งขึ้น พร้อมความพรีเมียมล้ำสมัย (Wild & Elegance) ในเจ้าเหมียวไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ตรุ่นนี้ ที่ไม่เพียงโดดเด่นด้านดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใครเท่านั้น แต่ยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ มอบสมรรถนะอย่างเต็มพิกัด และยังพกพาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาอย่างเต็มเปี่ยม เกรท วอลล์ มอเตอร์ เชื่อว่า ORA Good Cat GT จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% อีกคันหนึ่งที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภคชาวไทยที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวในทุกการขับขี่และไลฟ์สไตล์”

อุ่นใจในทุกการเดินทางกับ 5 เทคโนโลยีไฮไลท์เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยขั้นสูงในตัวเหมียวไฟฟ้าเวอร์ชั่นสปอร์ต

1.ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (Auto Reversing Assistance) ระบบจะจดจำเส้นทางตลอดระยะ 50 เมตรที่ขับเคลื่อนล่าสุด โดยระบบจะควบคุมพวงมาลัย เบรก และความเร็วรถ เพื่อให้รถยนต์ถอยหลังกลับตามเส้นทางที่บันทึกได้โดยอัตโนมัติ ขณะถอยหลังหากระบบตรวจจับพบคนเดินเท้า รถยนต์ หรือสิ่งกีดขวาง ซึ่งเคลื่อนที่และเสี่ยงต่อการชน ระบบจะเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ เพื่อให้รถยนต์หยุดการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว

2.ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (Integrated Intelligent Parking) ระบบจะใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ คำนวณพื้นที่และช่วยควบคุุมรถให้จอดเองอัตโนมัติ ครอบคลุมการจอดมากถึง 3 รููปแบบ โดยจะทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวเฉียง และจอดเทียบข้าง อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่จอดรถได้โดยไม่ต้องควบคุุมพวงมาลัยเอง

3.ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Adaptive Cruise Control with Intelligent Cornering) เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้

4.กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา (360° Surround Camera) ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบทิศทางถึง 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 เมกะพิกเซล โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพของทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา พร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่สามารถเห็นมุุมมองของรถได้รอบด้านและเปิดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลังเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย

5.ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (Auto Emergency Braking + Intersection) สามารถคำนวณระยะทางระหว่างรถยนต์ ผู้ขับขี่จักรยาน และคนเดินถนนได้แบบเรียลไทม์ มีสัญญาณเตือนด้วยเสียงและระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก และยังมีการใช้เซนเซอร์เพื่อเตือนการชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ฟังก์ชันอัจฉริยะมากมาย ตลอดจนเทคโนโลยีการขับขี่ปลอดภัยขั้นสูงทั้ง 5 ใน ORA Good Cat GT ที่กล่าวมา ตอกย้ำให้เห็นว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยไปพร้อมๆ กับส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและบริการที่ดีเยี่ยม โดยยึดมั่นในแนวคิดที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User-centric) ในการวางแผนการดำเนินงานและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ส่งผลให้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ปักหมุดห้ามพลาด! กับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศราคาในประเทศไทย สำหรับเจ้าเหมียวไฟฟ้าลุคสปอร์ต โฉบเฉี่ยวเหนือระดับ ORA Good Cat GT แถมมีเซอร์ไพรส์อีกเพียบ พบกันในวันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook: GWM Thailand และ ORA Thailand หรือ TikTok: GWM Thailand

ข้อมูลจำเพาะ

ORA Good Cat GT | Next Level of the Future

 

ORA Good Cat GT โดดเด่นด้านการออกแบบภายนอก, การออกแบบภายใน, สมรรถนะและขุมพลังการขับขี่, ฟีเจอร์ความสะดวกสบายขั้นสูง และเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ

 

รุ่นและสีรถยนต์

•สีรถภายนอก         :        สีอะควาเกรย์ (Aqua Grey)

•สีรถภายใน           :        สีแดง-ดำ

 

การออกแบบภายนอก (Exterior Design)

•โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต: กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตลายคาร์บอนไฟเบอร์ และสปอยเลอร์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมตราสัญลักษณ์ GT ทางด้านหลัง

•ล้อดีไซน์สปอร์ต: ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมกับดิสก์เบรคคาลิปเปอร์สีแดง

•ตัวรถที่กว้างขวาง: มิติตัวรถ 1,848 x 4,254 x 1,596 มม. (กว้าง x ยาว x สูง)

 

การออกแบบภายใน (Interior Design)

ORA Good Cat GT โดดเด่นด้วยการออกแบบอย่างประณีต ดึงดูดทุกสายตา โดดเด่นทุกสัมผัส ด้วยการตกแต่งแบบทูโทนสีดำและสีแดงเป็นเอกลักษณ์ ทั้งพวงมาลัย เบาะนั่ง คอนโซล รวมถึงพนักพิงศีรษะที่มีตราสัญลักษณ์ GT และเข็มขัดนิรภัยสีแดง

หน้าจอ Interactive Double Screen หน้าจอพาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถมีขนาด 17.25 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง แบ่งออกเป็น หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมิเดียพร้อมระบบสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว

ลำโพงรอบทิศทาง จำนวน 6 ตัว

ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ สามารถควบคุมการใช้งานฟังก์ชันได้ตลอดเวลาด้วยเสียง สามารถทำให้ได้รับบริการอย่างที่ต้องการ สามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศ ซันรูฟ ระบบนำทาง และมัลติมีเดีย ได้ในประโยคเดียว โดยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการขับขี่ ทำให้เกิดความปลอดภัย แบบไร้กังวล

การเชื่อมต่อโครงข่ายระยะไกล ช่วยให้สามารถควบคุมการเปิด-ปิดการชาร์จ เครื่องปรับอากาศ ปิดหน้าต่าง ได้จากระยะไกล และสามารถดูสถานะของรถได้ผ่านระบบ GWM Application

วัสดุภายในห้องโดยสารให้สัมผัสที่สบาย โดยใช้วัสดุที่มีคุณภาพในการตกแต่งภายในด้วยดีไซน์ที่สวยงาม ให้สัมผัสที่นุ่มนวลกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยให้ความรู้สึกสบาย มีความยืดหยุ่นสูงและสัมผัสที่นุ่มนวล

•มิติใหม่แห่งสุนทรียภาพในการขับขี่

เบาะที่นั่งที่ถูกออกแบบมาอย่างถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ และตกแต่งอย่างประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด

เบาะที่นั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง เบาะที่นั่งคนขับมาพร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง และฟังก์ชั่น Welcome Seat ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้า-ออกจากรถได้อย่างสะดวกสบาย

ระบบเบาะนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า พนักพิงเบาะด้านหลังพับได้แบบ 60:40

หลังคาพาโนรามิคซันรูฟอัจฉริยะ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่แสงสว่าง และเปิดมุมมองรับชมวิวทิวทัศน์ได้มากยิ่งขึ้น

ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ยกของหนัก

ฟังก์ชั่นอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงในรถยนต์ อาทิ การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฟังเพลง วิดีโอ

•สร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายภายในห้องโดยสาร

ระบบ Cockpit air filter system พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 ช่วยเปิดการไหลเวียนของอากาศจากภายนอกจากระยะไกลเพื่อระบายอากาศโดยอัตโนมัติ และสามารถช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 เมื่อเข้าสู่ห้องโดยสาร

เกียร์ระบบ Electronic Shifter เพื่อลดขนาดพื้นที่คอนโซลกลางให้มีความทันสมัย หรูหรา

ระบบชาร์จไร้สาย (Wireless Charging)

 

ฟังก์ชั่นอัจฉริยะ (Intelligent Functions)

•การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) 

ระบบดังกล่าวมาพร้อมกับความสามารถในการอัปเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ รวมถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่นๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดายผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA)

•การตอบโต้ด้วยเสียงอัจฉริยะผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence)

มีความสามารถในการจดจำเสียงได้เป็นอย่างดี จึงสามารถช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้ขับขี่สามารถสั่งการและโต้ตอบด้วยเสียงเพื่อใช้งานฟังก์ชันต่างๆ รวมไปถึงการเข้าถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์ภายในรถ

•ระบบความบันเทิงแบบมัลติมีเดีย

รองรับ Apple CarPlay และ Siri

รองรับ Android Auto และ Google Assistant

ระบบนำทาง

รองรับแอปพลิเคชั่นเพลง เช่น JOOX

•เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันและการเข้าโค้งอัจฉริยะ ที่มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ประสานกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ EYEQ4 ของโมบายอาย ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้

กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัวที่มีความละเอียดคมชัด โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพจากทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศารอบทิศทาง ยกระดับความปลอดภัยระหว่างการขับขี่ รวมไปถึงขณะทำการจอด 

ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขั้นสุดให้กับผู้ใช้ถนน ด้วยระบบการตรวจจับผู้ใช้จักรยานและคนเดินถนนทั้งบนทางตรงและทางแยก และสามารถคำนวณระยะทางระหว่างรถคันหน้าและข้างหลังได้แบบเรียลไทม์ พร้อมด้วยสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก

ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ และหากเลือกเกียร์ถอย รถจะสามารถถอยหลังกลับได้เองโดยใช้ข้อมูลสิ่งกีดขวางต่างๆ ที่ถูกบันทึกไว้ ถ้าระบบตรวจพบสิ่งกีดขวาง คนเดินถนน หรือรถยนต์ ระบบเบรกอัตโนมัติจะทำงานและรถจะหยุดในทันที

ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP) ใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถและช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวเฉียง และจอดเทียบข้าง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนํารถเข้าจอดแล้ว รถจะทําการจอดด้วยตัวเอง ด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง

ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว โดยในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และจะประคองรถให้กลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ

Intelligent LED Headlamp ไฟหน้าอันเป็นเอกลักษณ์แบบ LED เต็มรูปแบบในรูปทรง Cat Eye ที่โดดเด่นเฉพาะตัว พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ และไฟ Welcome light แบบพิเศษ ระบบปรับไฟสููง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องนำทางหลังดับรถยนต์ และ Daytime Running Light เพิ่มทัศนวิสัยที่เหนือชั้นในการขับขี่

 

GWM LEMON E PLATFORM

•แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะที่สามารถปรับเปลี่ยนและรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงพัฒนาด้านความปลอดภัย ซึ่ง GWM LEMON E PLATFORM ถูกปรับเพื่อใช้งานกับรถไฟฟ้า (BEV) โดยเฉพาะ

•แพลตฟอร์มมีน้ำหนักเบา ช่วยให้การขับขี่ดีขึ้นทั้งในแง่ประสิทธิภาพการเร่ง การเบรก และการควบคุมพวงมาลัย

•แพลตฟอร์มมีสมรรถนะสูง โดยผ่านการขับทดสอบบนถนนลูกรังกว่า 7,000 กิโลเมตร และมีการทดสอบในสภาวะแวดล้อมแบบสุดขั้วอีก 30,000 กิโลเมตร ช่วยสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย และประสบการณ์ขับขี่อันยอดเยี่ยมในทุกสภาพถนน

 

สมรรถนะของรถยนต์ ORA Good Cat GT

•ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 126 kW หรือ 171 PS แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 152 กิโลเมตร/ชั่วโมง

•ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง (MacPherson independent suspension with stabilizer bar)

•ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam)

•ระบบขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) สปอร์ต 3) ECO 4) ECO+ และ 5) อัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามปริมาณแบตเตอรี่ที่คงเหลือ

•ความสามารถการกู้คืนพลังงาน (Energy Regeneration) ได้สามระดับ ได้แก่ น้อย, มาตรฐาน และมาก เพื่อการประหยัดพลังงาน

•ระบบตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อให้คะแนนพร้อมให้คำแนะนำในการขับขี่

 

แบตเตอรี่ของรถยนต์ ORA Good Cat

•แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary (NMC) ความจุ 63.139 kWh

•รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 60 kW และการชาร์จไฟบ้านแบบ AC 6.6 kW

•ระยะเวลาในการชาร์จ

การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC  (0% - 80%) 60 นาที

การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30% - 80%) 40 นาที

การชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC 10 ชั่วโมง

•แบตเตอรี่สามารถใช้งานขับขี่ได้ในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิ -30°C - 55°C

•แบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟได้ในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิ -20°C - 55°C

•แบตเตอรี่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติในช่วงความกดอากาศ -150 ถึง 5,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และภายใต้สภาวะความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ 2 - 98%

•แบตเตอรี่มีความสามารถในการป้องกันมาตรฐาน IPX9K และ IP67 ซึ่งสามารถป้องกันน้ำ การกัดกร่อน การชน อัคคีภัย และการกระแทกได้ โดยเมื่อเกิดการกระแทก ระบบไฟฟ้าจะตัดการทำงานภายใน 0.1 วินาที เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

•เซลล์แบตเตอรี่ถูกห่อหุ้มด้วยกล่องที่มีความแข็งแรงในระดับ 3 มิติ พร้อมมีการควบคุมอุณหภูมิและระบบระบายความร้อน

 

ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยสำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับ L2+

•ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety)

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICA) ทำงานตามความเร็วที่ผู้ขับขี่ตั้งเอาไว้ แต่จะตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วต่ำ โดยสามารถควบคุมรถให้ติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่

การเบรกฉุกเฉินความเร็วต่ำ (LSEB) เมื่อเรดาร์ทำงาน จะตรวจสิ่งกีดขวางทั้งที่หยุดนิ่งหรือคนเดินถนนที่เคลื่อนที่ในแนวถอยจอดและหากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชน ระบบจะช่วยเบรคให้อัตโนมัติ โดยความเร็วขณะถอยจะไม่ต้องเกิน 8 กม./ชม.

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน โดยจะระบุเส้นแบ่งเลนถนนผ่านกล้องที่กระจกหน้ารถ เมื่อคนขับเบี่ยงเลนโดยไม่รู้ตัว ระบบจะช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน เมื่อระบบตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่มีลักษณะการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย ระบบจะแจ้งเตือนด้วยเสียง

ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) แจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน เมื่อรถเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่รู้ตัว ระบบจะส่งเสียงเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่มีเวลาตอบสนองมากขึ้น เมื่อผู้ขับขี่มีอาการจาม อ่อนล้า ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้รถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบจะแจ้งเตือนโดยทันที

ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน

การเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent Turn) เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้

ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) โดยเมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงานเพื่อป้องกันการถอยหลัง

ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง

ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอดเข้าสู่ช่องจราจร เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและภาพ หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานด้วยการลดความเร็วและหยุดรถเพื่อหลีกเลี่ยงการชน

ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ช่วยประเมินและวิเคราะห์ลักษณะในการขับขี่ เช่น มุมบังคับเลี้ยว การเบรก การควบคุมไฟส่องสว่าง และใบปัดน้ำฝน ระยะเวลาในการขับ หากพบว่ามีลักษณะการขับขี่ที่เหนื่อยล้า หรือหลังจากขับรถด้วยความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขับรถมากกว่า 4 ชั่วโมง ระบบจะเตือนด้วยภาพและเสียงนาน 20 วินาที ทุกๆ 10 นาที โดยสามารถทำการตั้งค่าใหม่ได้ก็ต่อเมื่อทำการหยุดรถเท่านั้น รถจะทำการแจ้งเตือนและแนะนำให้หยุดพัก

 

ระบบความปลอดภัยเชิงแก้ไข (Passive Safety)

โครงสร้างตัวถัง ทำจากเหล็กกล้า IronBone™ เหล็กขึ้นรูปร้อนที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษที่สามารถต้านทานแรงดึงได้สูงถึง 1,520 Mpa รวมไปถึงเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง 65% และเหล็กเทอร์โมฟอร์ม 8 ชิ้น ซึ่งสามารถดูดซับและลดแรงกระแทกเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก

ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เพื่อปกป้องผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ในกรณีที่ถุงลมนิรภัยทำงาน สัญญาณเตือนอันตรายจะทำงาน ประตูจะถูกปลดล็อก และรถจะโทรติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน และสามารถส่งตำแหน่งเพื่อขอความช่วยเหลือได้

ระบบโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน

 

 

เกี่ยวกับเกรท วอลล์ มอเตอร์

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) หรือ GWM เป็นบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2546 และตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2554 มีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นมากกว่า 80 บริษัทและมีพนักงานกว่า 70,000 คน ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทำยอดขายได้กว่าหนึ่งล้านคันต่อปี เป็นเวลาหกปีติดต่อกัน ซึ่งนอกจากในประเทศจีน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังส่งมอบรถยนต์คุณภาพไปให้กว่า 60 ประเทศและภูมิภาค และมีเครือข่ายในต่างประเทศกว่า 700 แห่งอีกด้วย

Visitors: 5,034,194