ตลาดรถยนต์มกราคมปี 66 เปิดฤดูกาลสวยงามยอดขาย 65,579 คัน

ตลาดรถยนต์มกราคมเปิดฤดูกาลขายประจำปีด้วยยอดขายรวม 65,579 คัน ลดลง 5.6% ขณะที่ตลาดเดือนกุมภาพันธ์มีแนวโน้มขยับตัวดีขึ้น จากปัจจัยบวกภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มเติบโต รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น ผลจากการเปิดประเทศ และราคาพลังที่นิ่งส่งผลทางบวกตรงกับตลาดรถยนต์ในประเทศ

 

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม เปิดฤดูกาลขายประจำปี 2566 ด้วยยอดขาย 65,579 คัน ลดลง 5.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,864 คัน ลดลง 2.1% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 42,715 คัน ลดลง 7.3% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 31,771 คัน ลดลง 9.1%

 

ตลาดรถยนต์เดือนมกราคม 2566 มีปริมาณการขาย 65,579 คัน ลดลง 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เปิดฤดูกาลขายตามดัชนีการขายประจำไตรมาสแรกของปีที่มักชะลอตัว โดยตลาดรถยนต์นั่ง มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 2.1% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตลดลงเช่นเดียวกันที่ 7.3% โดยมีสถานการณ์การขาดแคลนชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิตรถยนต์เป็นปัจจัยลบสำคัญที่ยังคงดำเนินอยู่ ในขณะที่ค่ายรถยนต์ต่างพยายามส่งมอบรถที่ได้รับจองในช่วงไตรมาสสุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงงาน “มหกรรมยานยนต์” ซึ่งกำลังซื้อของลูกค้าได้ถูกใช้ไปกับแคมเปญส่งเสริมการขายที่แรงที่สุดในรอบปี

 

ขณะที่ตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์มีแนวโน้มค่อยๆ ขยับตัวดีขึ้น จากปัจจัยบวกคือภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น อันเนื่องมาจากการเปิดประเทศภายหลังการคลี่คลายของสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้น ช่วยส่งเสริมภาพรวมของเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม รวมไปถึงราคาพลังงานที่รักษาระดับราคา ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน

 

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม 2566

1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 65,579 คัน ลดลง 5.6%                           

อันดับที่ 1 โตโยต้า  23,796 คัน   เพิ่มขึ้น 7.4%          ส่วนแบ่งตลาด 36.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        14,651 คัน  ลดลง 5.0%           ส่วนแบ่งตลาด 22.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า   7,071 คัน    ลดลง 17.1%          ส่วนแบ่งตลาด 10.8%

 

2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,864 คัน ลดลง 2.1%                           

อันดับที่ 1 โตโยต้า  8,664 คัน    เพิ่มขึ้น 59.0%        ส่วนแบ่งตลาด 37.9%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า   5,073 คัน    ลดลง 17.6%          ส่วนแบ่งตลาด 22.2%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ   1,556 คัน    ลดลง 21.1%          ส่วนแบ่งตลาด  6.8%

 

3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 42,715 คัน ลดลง 7.3%                           

อันดับที่ 1 โตโยต้า  15,132 คัน   ลดลง 9.4%            ส่วนแบ่งตลาด 35.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        14,651 คัน   ลดลง 5.0%            ส่วนแบ่งตลาด 34.3%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด     3,376 คัน    เพิ่มขึ้น 34.8%        ส่วนแบ่งตลาด  7.9%

4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 31,771 คัน ลดลง 9.1%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ        13,543 คัน   ลดลง 4.2%           ส่วนแบ่งตลาด 42.6%

อันดับที่ 2 โตโยต้า  12,602 คัน   ลดลง 12.3%          ส่วนแบ่งตลาด 39.7%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด     3,376 คัน    เพิ่มขึ้น 34.8%        ส่วนแบ่งตลาด 10.6%

        *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,476 คัน โตโยต้า 2,253 คัน - อีซูซุ 1,723 คัน –ฟอร์ด 930 คัน –มิตซูบิชิ 471 คัน – นิสสัน 99 คัน

 

5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 26,295 คัน ลดลง 12.9%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ        11,820 คัน   ลดลง 7.8%            ส่วนแบ่งตลาด 45.0%

อันดับที่ 2 โตโยต้า  10,349 คัน   ลดลง 14.6%          ส่วนแบ่งตลาด 39.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด     2,446 คัน     เพิ่มขึ้น 16.0%        ส่วนแบ่งตลาด  9.3%               

Visitors: 5,034,609