ตลาดรถยนต์มกราคมปี-2567-แนวโน้มสู่แดนบวก

ตลาดรถยนต์มกราคมเปิดฤดูกาลขายประจำปี 2567 ด้วยยอดขายรวม 54,814 คัน ลดลง 16.4% ชี้แนวโน้มตลาดรวมขยับตัว สืบเนื่องจากภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

 

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม เปิดฤดูกาลขายประจำปี 2567 ด้วยยอดขาย 54,814 คัน ลดลง 16.4% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 23,412 คัน เพิ่มขึ้น 2.4% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 31,402 คัน ลดลง 26.5% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 17,938 คัน ลดลง 43.5

 

ตลาดรถยนต์เดือนมกราคม 2567 มีปริมาณการขาย 54,814 คัน ลดลง 16.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เปิดฤดูกาลขายตามดัชนีการขายประจำไตรมาสแรกของปีที่มักชะลอตัว โดยตลาดรถยนต์นั่ง มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นที่ 2.4% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 26.5% เนื่องจากผู้บริโภคกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศยังฟื้นตัวช้า ประกอบกับความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์

 

ตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์มีแนวโน้มที่จะขยับตัวดีขึ้น เนื่องจากภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชนปี 2567 อาทิ มาตรการลดหย่อนภาษี “Easy E-Receipt” การปรับลดค่าไฟฟ้า และการยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยว ส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น และส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น พร้อมกับการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่จากหลายค่ายในช่วงต้นปี ซึ่งส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์เช่นกัน

 

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม 2567

1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 54,814 คัน ลดลง 16.4%                           

อันดับที่ 1 โตโยต้า   17,526 คัน   ลดลง 26.3%          ส่วนแบ่งตลาด 32%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า   8,298 คัน     เพิ่มขึ้น  17.4%       ส่วนแบ่งตลาด 15.1%

อันดับที่ 3 อีซูซุ        7,930 คัน     ลดลง 45.9%          ส่วนแบ่งตลาด 14.5%

2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 23,412 คัน เพิ่มขึ้น 2.4%                           

อันดับที่ 1 โตโยต้า   5,145 คัน    ลดลง 40.6%          ส่วนแบ่งตลาด 22%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า   4,608 คัน    ลดลง 9.2%            ส่วนแบ่งตลาด 19.7%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ   1,210 คัน    ลดลง 22.2%          ส่วนแบ่งตลาด  5.2%

3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 31,402 คัน ลดลง 26.5%                           

อันดับที่ 1 โตโยต้า   12,381 คัน   ลดลง 18.2%          ส่วนแบ่งตลาด 39.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        7,930 คัน     ลดลง 45.9%          ส่วนแบ่งตลาด 25.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า   3,690 คัน    เพิ่มขึ้น 84.7%        ส่วนแบ่งตลาด 11.8%

4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย  17,938 คัน ลดลง 43.5%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า   7,958 คัน     ลดลง 36.9%          ส่วนแบ่งตลาด 44.4%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        6,926 คัน     ลดลง 48.9%          ส่วนแบ่งตลาด 38.6%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด     1,982 คัน     ลดลง 41.3%          ส่วนแบ่งตลาด 11%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,074 คัน โตโยต้า 1,111 คัน - อีซูซุ 1,023 คัน –ฟอร์ด 705 คัน –มิตซูบิชิ 186 คัน – นิสสัน 49 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 14,864 คัน ลดลง 43.5%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า   6,847 คัน    ลดลง 33.8%          ส่วนแบ่งตลาด 46.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        5,903 คัน     ลดลง 50.1%          ส่วนแบ่งตลาด 39.7%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด     1,277 คัน    ลดลง 47.8%          ส่วนแบ่งตลาด  8.6%               

Visitors: 5,034,687