วอลโว่ เผยสูตรสำเร็จ ภายใต้การกุมบังเหียน มร.คริส เวลส์
“คริส เวลส์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยสูตรสู่ความสำเร็จในยุคตลาดรถยนต์แข่งเดือด และเป็นปีที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรง และเป็นปีที่แบรนด์รถยนต์ “วอลโว่” ประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องของอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญต่อทิศทางตลาดรถยนต์เมืองไทย กมรวางกลยุทธ์การตลาดและการวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่ลงตัวสอดคล้องกับสถานการณ์นับเป็น Key Success บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ไปดูว่าคีร์แมน “คริส เวลส์” คิดอย่างไร...?
มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงบอกว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดความสำเร็จ เริ่มต้นจากการวางแนวทางที่ค่อนข้างชัดเจน ทำให้มีแนวทางการทำงานหลายประการ ได้แก่ 1. การนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ โดยเฉพาะด้านผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างดียิ่งขึ้น 2.การให้บริการหลังการขายตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน สามารถตอบสนองการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลดีในหลายด้าน การแนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดตรงความต้องการของลูกค้า ลูกค้าได้สัมผัสแบรนด์วอลโว่ในทุกจุด เพื่อนำเสนอประสบการณ์ในรูปแบบสแกนดิเนเวียอย่างเต็มรูปแบบ การมีผลิตภัณฑ์ใหม่การเปิดตัวรถยนต์วอลโว่ระบบพลังงานไฟฟ้า 100% (Pure Electric) ที่เป็นเทรนด์ใหม่ของโลกวันนี้ก็เป็นตัวสำคัญของการเติบโตของวอลโว่ ที่วอลโว่ เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งหน้าสู่การสร้างความยั่งยืนในระยะยาวตั้งแต่ปี 2018 ที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าเราต้องเผชิญหน้ากับความท้ายทายจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพื่อส่งมอบรถยนต์ที่ลูกค้าต้องการ เรายังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อส่งมอบรถยนต์ระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด
“คริส เวลส์” บอกด้วยว่า วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ถือเป็นแบรนด์รถยนต์พรีเมียมแบรนด์เดียวเท่านั้นที่มีพันธกิจในการจัดจำหน่ายรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug in Hybrid) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Pure Electric) เท่านั้น โดยเรายกเลิกการจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบเครื่องยนต์สันดาปทั้งหมด และเราจะยังคงเดินหน้าขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2565 ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ในปีนี้ 1-2 รุ่น ตลอดจนการมุ่งเน้นการจำหน่ายรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริดต่อไป
“คริส เวลส์” กล่าวย้ำอีกว่า สำหรับเป้าหมายของบริษัทในการทำให้การสั่งซื้อรถยนต์วอลโว่ในปัจจุบันเป็นไปได้อย่างราบรื่นที่สุด บริษัทมีการพัฒนาโซลูชั่นต่างๆ เพื่อส่งมอบบริการทั้งผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ และปี 2565 เรามีปัจจัยที่จะทำให้วอลโว่ไปสู่เป้าหมาย คือ
1.ผลิตภัณฑ์ใหม่
สำหรับกลยุทธ์ของเราในปี 2565 เรามุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่คือการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Pure Electric) รุ่นใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 1 และเรายังตั้งเป้าหมายในการจำหน่ายรถยนต์วอลโว่ที่เป็นระบบไฟฟ้าแบบ 100%ในประเทศไทย ในสัดส่วนที่มากกว่า 30% ของยอดขายทั้งหมดในปีนี้ เราจะมีการเปิดตัวรถยนต์วอลโว่ระบบพลังงานไฟฟ้า 100% (Pure Electric) C40 รุ่นใหม่ในไตรมาสที่ 1 และเรายังคงมุ่งหน้าที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่างน้อย 1-2 รุ่น ในทุกๆ ปี เพื่อส่งเสริมพันธกิจหลักของวอลโว่ คาร์ ทั่วโลกในการส่งมอบรถยนต์ระดับพรีเมียมที่มีสมรรถนะสูง พร้อมตอบโจทย์แก่ทุกไลฟ์สไตล์ให้แก่ผู้ขับขี่ทุกคน ตลอดจนเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมได้ในระยะยาว
2.บริการที่ดี
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกภาคส่วนนั้นได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยที่วอลโว่ เรามุ่งเน้นไปที่ความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดีของลูกค้าและพนักงานของเราเป็นหลัก โดยเรามีการยกระดับมาตรการความปลอดภัย พร้อมผสานมาตรการด้านสุขอนามัยขั้นสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าในโชว์รูมและศูนย์บริการ เพื่อให้ลูกค้าได้อุ่นใจในการเข้ารับบริการที่ที่ดีจากวอลโว่และสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับรถยนต์ที่สะอาดปลอดภัยทั้งการส่งมอบรถยนต์คันใหม่และรถยนต์ที่มาใช้บริการซ่อมบำรุง การให้บริการหลังการขายตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน ซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือ มอบคำแนะนำ และสนับสนุนลูกค้าได้ตลอดทุกที่ ทุกเวลา เป็นต้น ในขณะเดียวกัน ถึงแม้ว่าเราต้องเผชิญหน้ากับข้อจำกัดต่างๆ มากกว่า 6 เดือน แต่เราก็สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตในปี 2564 ได้อย่างมั่นคง
3.สร้างความแตกกต่าง
วอลโว่ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมียมเพียงแบรนด์เดียวเท่านั้นที่นำเสนอและจำหน่ายรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug in Hybrid) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Pure Electric) แต่เพียงเท่านั้น โดยเราได้ตัดสินใจยุติการจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลหรือเครื่องยนต์สันดาปโดยสิ้นเชิงตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เรายังมีการมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้ามากมาย เพื่อแทนคำขอบคุณและเป็นการอำนวยความสะดวกสบายต่อการขับขี่ให้แก่ลูกค้าของเรา อาทิ การส่งมอบเครื่องชาร์จไฟ (Wall Box EV Charger) แบบติดผนัง พร้อมบริการติดตั้ง และ ตรวจสภาพระบบไฟฟ้าในที่พักอาศัยหรือที่ทำงานให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์วอลโว่ หรือการส่งมอบบริการหลังการขายทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเสริมสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าในทุกการเดินทาง
4.ส่งเสริมสภาพแวดล้อม
วอลโว่ยังคงคำนึงถึงเรื่องปัญหาทางด้านสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างมาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวถือเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลกมาอย่างยาวนาน และเรารู้ว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างปัญหาเหล่านี้ ทั้งนี้ด้วยพันธกิจหลักในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมและการสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคม เราจึงเดินหน้าสร้างโซลูชันต่างๆ เพื่อลดการการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยเราเชื่อว่าผู้ใช้งานรถยนต์ต่างๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาการขับขี่ด้วยน้ำมันเบนซินหรือดีเซลแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป โดยรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug in Hybrid) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Pure Electric) ของวอลโว่ จะสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟสไตล์และความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้คนได้อย่างไร้ที่ติ ทั้งนี้ ที่วอลโว่ เราใส่ใจในผู้คนและสิ่งแวดล้อมเสมอมาและจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง โดยเราเชื่อมั่นว่าลูกค้าของเราต้องการเลือกแบรนด์รถยนต์ที่ใส่ใจในการทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
5.เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่
รถยนต์วอลโว่ในปัจจุบันมีความแตกต่างจากเมื่อ 4 ปีที่แล้วอย่างชัดเจน เราพบว่ามีลูกค้าจำนวนมากที่เชื่อมั่นและมั่นใจในจุดยืนและสิ่งที่วอลโว่ต้องการนำเสนอให้แก่ลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบรถยนต์ระดับพรีเมียมที่มาพร้อมสมรรถนะที่แรงกล้า ตลอดจนความปลอดภัยขั้นสูงและการสร้างความยั่งยืนให้แก่สิ่งแวดล้อมและสังคมในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากข้อมูลที่เราได้รับล่าสุด พบว่ากลุ่มลูกค้าที่มีอายุน้อยเริ่มให้ความสนใจในแบรนด์รถยนต์วอลโว่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากรถยนต์วอลโว่มีการปรับโฉมให้มีความโดดเด่น หรูหรา ดีไซน์ไม่ซ้ำใคร พร้อมอัดแน่นด้วยขุมพลังไฟฟ้าเต็มสูบ เหมาะสำหรับทุกไลฟสไตล์การใช้งานและการขับขี่อย่างแท้จริง เราจึงมองหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ๆ
6.ลงทุนเพิ่มเติม
วอลโว่มีการวางแผนเพื่อปรับเปลี่ยนงบประมาณในประเทศไทยทุกๆ ปี ซึ่งอันที่จริงแล้ว ในช่วงสองปีที่ผ่านมา วอลโว่ได้ลงทุนในประเทศไทยไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะลงทุนเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ โดยเราจะมีการประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม “คริส เวลส์” ทิ้งท้ายว่า โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกับความคาดหวังและความต้องการในด้านการเดินทางของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทุกคนจึงต้องปรับตัวและยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สิ่งนี้ไม่อาจเกิดขึ้นในเพียงชั่วข้ามคืน
สำหรับวอลโว่มีการปรับตัวและต้องตื่นตัวตลอดเวลา จากนี้ไปประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์วอลโว่จะง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะการวางยุทธศาสตร์ผลิตภัณฑ์มุ่งจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ความซับซ้อนของงานบริการหลังการขายง่ายขึ้น ไม่มีความซับซ้อนเหมือนรถยนต์สันดาปภายใน ทำงานให้บริการหลังการขายง่ายขึ้น งานบริการหลังการขายจะก้าวเข้าสู่การให้หน่วยบริการเคลื่อนที่ออกไปให้บริการการนอกสถานที่ (Mobile Service) โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ศูนย์บริการหรือโชว์รูมเพื่อเข้ารับบริการต่างๆ หรือนำรถเข้ารับบริการซ่อมบำรุงอีกต่อไป
